เริ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับมาตรการเข้มข้นในการจัดการเรื่องของ โ ค วิ ด 19 สำหรับพื้นที่สีแดงเข้ม เชื่อว่ามาตรการครั้งนี้กระทบการทำมาหากินของประชาชน เราจึงนำข้อมูลเตรียมการเยียวยามาให้ทุกท่าน โดยมีรายละเอียดดังนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นัดประชุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลวันนี้ (12 ก.ค.) ประกอบด้วยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รวมถึงสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะหน่วยงานกำกับการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบ (ศบศ.) กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เพื่อพิจาณามาตรการดูแลและเยียวยาประชาชน 10 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเเฉินจากการแพร่ระบาดของ โ ค วิ ด -19 (ศบค.) ประกาศให้มีผลวันนี้ (12 ก.ค.)
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า มาตรการดูแลที่จะเพิ่มเติมจะพิจารณาดูแลผู้ได้รับผลกระทบใน 10 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลาและสงขลา ซึ่งจะมีมาตรการช่วยเหลือให้แรงงาน คือ
1.แรงงานในระบบประกันสังคม
2.แรงงานนอกระบบประกันสังคมและกลุ่มอาชีพอิสระ
รวมทั้งจะมีการจ่ายเงินเยียวยาพิเศษเพิ่มเติมด้วย และการเยียวยาแรงงานนอกระบบจะให้ลงทะเบียน โดยมีการจ่ายเงินพิเศษจูงใจให้นายจ้างและลูกจ้างเข้าสู่ระบบประกันสังคม
ทั้งนี้ รูปแบบการช่วยเหลือจะคล้ายมาตรการที่ได้ออกมาช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเหลือแรงงานและผู้ประกอบการใน 6 จังหวัดที่ถูกสั่งปิด โดยกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ ที่มีเลขาธิการ สศช.เป็นประธานจะเสนอมาตรการเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ก.ค.เพื่อเห็นชอบในหลักการ
เยียวยาทั้งลูกจ้าง-นายจ้าง
สำหรับมาตรการที่รัฐบาลเตรียมไว้เพิ่มเติมจะเป็นมาตรการจากกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีทั้งการเยียวยาประชาชนและช่วยเหลือกิจการที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศยกระดับมาตรการในพื้นที่สีแดงเข้มฉบับล่าสุดที่ให้ปิดกิจการบางประเภทเพิ่มเติม เช่น ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ซึ่งต่างจากการเยียวยาในปี 2563 ที่ใช้กับทั่วประเทศ
ส่วนแหล่งที่มาของงบประมาณการเยียวยาเพิ่มเติมจะใช้เงินจากเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ยังเหลือบางส่วนและหากไม่พอจะขอใช้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งกันส่วนเยียวยาประชาชนไว้ 3 แสนล้านบาท
แหล่งข่าว กล่าวว่า มาตรการที่จะออกมาจะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์และช่วยพยุงเศรษฐกิจด้วย เพราะมาตรการทางการคลังที่ออกมายังไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 โคงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งเป็นมาตรการที่ออกมาช่วง โ ค วิ ด -1 9 แพร่ ร ะ บ า ด รุนแรงทำให้ประชาชนยังไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยมากนัก ซึ่งจะเสนอ ครม.ปรับปรุงมาตรการที่อนุมัติไปแล้วด้วย
เตรียมมาตรการหลังคลี่คลาย
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้มีหลายสมาคมการค้าเสนอให้ภาครัฐช่วยพยุงการจ้างงาน โดยขอให้รัฐช่วยสนับสนุนการค่าจ้างแรงงาน โดยมาตรการในลักษณะนี้คาดว่าจะใช้วงเงิน 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอีกมาตรการที่ช่วยผู้ประกอบการรักษาระดับการจ้างงาน และจะส่งผลดีต่อภาคการผลิตและเศรษฐกิจในภาพรวม โดยกำลังสรุปรายละเอียดร่วมกับภาคเอกชนเพื่อเสนอ ศบศ.เพื่อให้มีผลใช้ทันทีเมื่อการระบาดคลี่คลายลง
รวมทั้งเตรียมมาตรการช่วยเหลือภาคท่องเที่ยวสำหรับช่วงสถานการณ์คลี่คลายลง โดยจะพิจารณานำโครงการเราเที่ยวด้วยกันและโครงการทัวร์เที่ยวไทยของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วงเงิน 27,400 ล้านบาท กลับมาใหม่หลังจากเลื่อนไปเพราะการระบาดระลอกที่ 3 โดยประเมินว่าหลังจากมีมาตรการเพิ่มเติมแล้วสถานการณ์ โ ค วิ ด -1 9 จะทยอยคลี่คลายขึ้นในเดือน ส.ค.นี้